วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เมืองน่าเที่ยวประเทศอิตาลี

เมืองน่าเที่ยวประเทศอิตาลี



http://www.qetour.com/photos/see_the_world/images/spacer.gif
กรุงโรม (Rome)
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซิโอและประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ ในเขตตัวเมืองมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 2.5ล้านคน ถ้ารวมเมืองโดยรอบจะมีประมาณ 4.3 ล้านคน โดยมีจำนวนประชากรใกล้เคียงกับมิลานและเนเปิลส์ โรมมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี ตั้งอยู่บนเนินเขาทั้งเจ็ดริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ตอนกลางของประเทศโดยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรในอดีตมากมายเช่น ราชอาณาจักรโรมันสาธารณรัฐโรมันและจักรวรรดิโรมัน โรมเคยเป็นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตกและในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันได้เป็นเมืองหลวงของประเทศอิตาลีตั้งแต่ ค.ศ. 1870 นอกจากนี้ โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิกอีกด้วย





http://www.qetour.com/photos/see_the_world/images/spacer.gif
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
โคลอสเซียม(Colloseum)
เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เริ่มสร้างขึ้น ในสมัยจักรพรรดิเวสปาเซียนแห่งอาณาจักรโรมันและสร้างเสร็จ ในสมัยของจักรพรรดิติตัสในคริสตศตวรรษที่1 หรือประมาณปี ค.ศ.80อัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายวัดโดยรอบได้ประมาณ 527เมตร สูง 57เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คนมีการออกแบบอย่างชาญฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรีเพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬาและมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆในปัจจุบันในบางครั้งจะมีการเรียกชื่อโคลิเซียม (Coliseum)7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 โคลอสเซียมได้รับเลือกให้เป็น1ในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

http://www.qetour.com/photos/see_the_world/images/spacer.gif



พระราชวังวาติกัน(Vatican Palace)
ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นศูนย์กลางการปกครองของศาสนาคริสต์เเละยังเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตปาปาประมุขฝ่ายศาสนาคริสต์ เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลกใช้ประกอบพิธีกรรม ทางศาสนาต่างๆเป็นงานสถาปัตยกรรมที่งดงามลวดลายวิจิตรด้วยฝีมือศิลปินชาวอิตาลีหลายคนหลายยุคสมัยกว้าง 289 ฟุต ยาว 486 ฟุต สูง  354 ฟุต มียอดปราสาทมากถึง 135 ยอด เเละห้องต่างๆมากถึงสี่พันห้องนับเป็นงานก่อสร้างที่งดงามเเละมหัศจรรย์อีกเเห่งหนึ่งของโลก ภายในจะมีจุดสนใจของผู้ที่มาท่องเที่ยวก็คือ  รูปภาพ ปิเอต้า(Pieta) สร้างสรรค์โดย ไมเคิลแองเจโล่ เป็นศิลปะ สมัยยุดเรนาชองต์ ประดิษฐาน ขึ้นที่ มหาวิหารวิหารเซ็นต์ ปีเตอร์ในศตวรรษที่ 18 โดยเป็นภาพของพระแม่มารีย์ ทรงโอบอุ้มพระเยซูก่อนที่ท่านจะสิ้นใจนอกจากนั้นยังมีศิลปะหลายแขนง ให้เลือกชม มากมาย



http://www.qetour.com/photos/see_the_world/images/spacer.gif


น้ำพุเทรวี่ (Trevi fountain)
เป็นน้ำพุที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ชื่อ เทรวี่นั้นมาจากคำว่าตรีวิอุมหมายถึงพบกันของถนนสามสาย เป็นอนุสรณ์สไตล์บารอค ออกแบบและก่อสร้างโดย นิโคลา ซาลวี่ ซึ่งองค์สมเด็จสันตะปาปา ครีเมนต์ที่ 12ได้มอบหมายให้สร้างขึ้นในปี 1732 การก่อสร้างดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งภายหลังการสิ้นพระชนม์สมเด็จสันตะปาปาที่ เออร์บัน ที่ 8ได้หยุดชะงักลง และดำเนินการสร้างต่อมาจนแล้วเสร็จในปี 1762 รวม ใช้เวลาทั้งสิ้น 30ปี ทางระบายน้ำ เวอร์โก้ บริเวณลานด้านหน้านั้นก่อสร้างมากว่า 2000ปี ครั้งสมัยโรมโบราณซึ่งปกครองโดยจักรพรรดิออกัสตัส ซึ่ง ตรงเวลา 19 ปี ก่อนคริสตศักราช รูปปั้นแกะสลักที่เลิศหรูอลังการที่อวดโฉมให้ผู้ไปเยือนได้ยลนั้นได้แนวคิดจากความยิ่งใหญ่ของเทพเจ้าเนปจูน เทพแห่งท้องทะเลว่ากันว่า หากใครที่ได้โยนเหรียญลงไปในน้ำ เขาหรือเธอผู้นั้นจะได้กลับมาเยือนอีกในสักวัน

http://www.qetour.com/photos/see_the_world/images/spacer.gif



บันไดสเปน (Piazza di spagna )
หนึ่งในจุดที่สวยในกรุงโรมบ่ายๆ ผู้คนจะมานั่งพักผ่อนพบปะกันเต็ม ย่านชอปปิ้งที่หรูหราที่สุดของเมือง มีซอยเล็ก ซอยน้อย ที่ท่านจะได้เดินเที่ยวชมและช้อปปิ้งเพลิดเพลิน

http://www.qetour.com/photos/see_the_world/images/spacer.gif

มิลาน (Milan) 
เป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลีตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี เมืองมิลานมีประชากร ประมาณ 1,308,500คนโดยถ้ารวมบริเวณรอบนอกและเขตปริมณฑลจะมีประมาณ 4 ล้านคน ซึ่งเรียกเขตทั้งหมดว่า ลากรันเดมีลาโน  มิลานมีพื้นที่ประมาณ 1,982 ตร.กม. ชื่อเมืองมิลาน มาจากภาษาเซลต์ คำว่า "Mid-lan" ซึ่งหมายถึง อยู่กลางที่ราบ เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชันและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชันในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม นอกจากนี้มิลานยังเป็นที่รู้จักจากประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า ปาเนตโตเน อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ
http://www.qetour.com/photos/see_the_world/images/spacer.gif



วิหารดูโอโม่ (Duomo Cathedral)
ตั้งอยู่ที่จตุรัสกลางเมืองมิลานโบสถ์แห่งนี้เป็นศิลปะสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่สวยงามที่สุดในอิตาลีและใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก โดยที่ไม่นับวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ความยาว ประมาณ 157 เมตร สามารถจุคนได้ประมาณ ถึง 40,000 คนซึ่งใช้ระยะเวลาการก่อสร้างยาวนานกว่า 500 ปี ( ค.ศ.1386 – 188)เป็นสิ่งก่อสร้างในยุคอาณาจักรโรมันรุ่งเรือง
http://www.qetour.com/photos/see_the_world/images/spacer.gif


โบสถ์ซานตามาเรีย เดอ กราซี (Santa Maria delle Grazie)
โบสถ์ ซานตา มาเรีย เดล กราซี สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1465 และ 1482 ออกแบบโดย กิลฟอร์ท โครงสร้างโบสถ์แต่ดั้งเดิมนั้นปัจจุบันเหลือเพียงรูปแบบของแท่นบูชาห้องโถงกว้าง จากหน้าประตู และ ทางเดิน ซึ่งได้ใช้ศิลปะแบบโกธิค ลอมบาร์ค เป็นต้นแบบ นับแต่ปี ค.ศ.1490 เรื่อยมา ลูโดวิโก้ สโฟซ่า ได้ให้มีการปรับเปลี่ยน รูปแบบสถาปัตยกรรม เพื่อใช้เป็นสุสาน สำหรับครอบครัวของเขา ดยุคได้เล็งเห็นถึงความตั้งใจของเขาใน ซานตา มาเรีย เดอ กราซี และ เรียกงานของเขาว่าเป็นศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยเขาได้มอบหมายให้ บรามันเต้ เป็นผู้สร้าง หน้ามุข ขึ้นแทนที่ แท่นบูชา ล๊โอนาโด ได้รับมอบหมาย ให้วาดภาพอาหารมื้อสุดท้าย ขณะเดียวกัน คริสโตโฟโร โซลารี่ ได้ให้มอบหมายให้แกะสลักฝาหลุมฝังศพของลูวิโก้และแบทริสภรรยาของเขาโดยให้อยู่เป็นศูนย์กลางของบริเวณที่ขณะคณะขับร้องยืนภายในโบสถ์ทุกวันนี้สถานที่แห่งนี้จัดเป็นสุดยอดของงานและความอลังการของศิลปะยุคเรอเนอซองส์ ของมิลาน แม้จะถูกปรับเปลี่ยนและถูกทำลาย
http://www.qetour.com/photos/see_the_world/images/spacer.gif
จากการทิ้งระเบิดในวันที่ 16 ส.ค.ค.ศ.1943 ซึ่งการทิ้งระเบิดในครั้งนั้น ได้ทำลายห้องเก็บหนังสือและสถานที่สำหรับความตายเขาหมดสิ้น

http://www.qetour.com/photos/see_the_world/images/spacer.gif

ฟลอเรนซ์ (Florence)
ฟีเรนเซ หรือ ฟลอเรนซ์ เป็นเมืองหลวงของแคว้นตอสกานาและจังหวัดฟีเรนเซ ใน ประเทศอิตาลีระหว่าง ค.ศ. 1865 ถึง ค.ศ. 1870 ฟีเรนเซก็เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอิตาลี ฟีเรนเซตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอาร์โน มีประชากรประมาณ 400,000 คนและอีก 200,000 คนในบริเวณปริมณฑล ฟีเรนเซในยุคกลางเป็นศูนย์กลางทางการค้าและทางการเงิน และถือกันว่าเป็นที่เกิดของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ตระกูลที่มีอำนาจการปกครองฟีเรนเซเป็นเวลานานคือตระกูลเมดิชิ นอกจากนั้นฟีเรนเซก็ยังมีชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางศิลปะและสถาปัตยกรรม ในยุคกลางฟีเรนเซเป็นที่รู้จักกันในนามว่าเอเธนส์ใจกลางเมืองเก่าของฟีเรนเซได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1982 (พ.ศ. 2525)
http://www.qetour.com/photos/see_the_world/images/spacer.gif


http://www.qetour.com/photos/see_the_world/images/spacer.gif


โบสถ์เมดิ ซี (Medici Chapel)
โบสถ์ เมดิซี เป็นส่วนหนึ่งของวิหาร เดอ ซาน โลเรนโซ่ เดอ ฟีราเซ่ ในนครฟลอเรนซ์ ประเทศ อิตาลี ส่วนหน้าไม่เคยสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามก็ไม่อาจปฏิเสธความงดงามภายในวิหารและโบสถ์เมดิซีได้ วิหารแห่งนี้เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในนครฟลอเรนซ์และอยู่ใจกลางเมือง วิหาร เดอ ซานโลเรนโซ่ ได้รับการเสกในปี ค.ศ.393 และ 300 ปี ต่อมาได้รับการสถาปนาให้เป็นโบสถ์กลางเมือง และเป็นที่ประทับของบิชอบผู้นำศาสนา วิหารนี้ยังเป็นโบสถ์ท้องถิ่นของตระกูลเมดิซี หนึ่งในตระกูลของผู้มีอำนาจในช่วงราวศตวรรษที่ 13 และ 17 ทั้งนี้ตระกูลเมดิซี เป็นตระกูลที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมในยุคศิลปะเฟื่องฟู และยืนยันถึงความรุ่งเรืองของศิลปะ ดนตรี ของสังคมในยุคเรอเนอซองส์ ของอิตาลี กล่าวได้ว่าตระกูลเมดิซี มีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับประวัติศาสตร์ของฟลอเรนซ์ โดยมีโบสถ์ เมดิซี เป็นดังพินัยกรรมตกทอดความสัมพันธ์จวบจนทุกวันนี้

ภายในวิหาร เดอ ซานโลเรนโซ่ ตกแต่งตามสไตล์เรอเนอซองส์พื้นที่ภายในเป็นที่โล่งกว้าง ใหญ่ อากาศปลอดโปล่ง เย็นสบาย และตกแต่ง เพดานไว้อย่างวิจิตรตระการตา ร่างของคนในตระกูลเมดิซี เกือบ 50 คน ถูกฝังอยู่ใต้ห้องใต้ดินของโบสถ์ การก่อสร้างโบสถ์ เมดิซี เริ่มนับแต่ภายหลังการตายของ กิลลาโน และ โลเรนโซ่ เดอ เมดิซี ทายาทหนุ่มทั้ง 2 ของตระกูลในปี 1516 และ 1519 อนุสรณ์พิธีฝังศพของโบสถ์ ดำริให้สร้างขึ้นโดยสันตะปาปา ครีเมนต์ที่ 12  ในปี ค.ศ.1520 ซึ่งอดีตเป็นสังฆราช กิลิโอ เดอเมดิซีและได้มอบหมายให้หนึ่งในศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ยุคเรอเนอซองส์ อย่างไมเคิลแองเจลโล เป็นผู้สร้างขึ้นระหว่าง ปี 1520 และ 1534


http://www.qetour.com/photos/see_the_world/images/spacer.gif
เวนิส(Venice)
เวนิส เป็นเมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี มีประชากร 271,663 คน เมืองเวนิสได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน และ เมืองแห่งแสงสว่างเมืองเวนิส ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริก ในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ทะเลสาบน้ำเค็มนี้ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งระหว่างปากแม่น้ำโปกับแม่น้ำพลาวิ มีผู้อยู่อาศัยโดยประมาณ 272,000 คน ซึ่งนับรวมหมดทั้งเวนิส โดยมี 62,000 คนในบริเวณเมืองเก่า 176,000 คนในเทอร์ราเฟอร์มา) และ 31,000 คนในเกาะอื่นๆ ในทะเลสาบ









 สถานที่ไม่ควรพลาดชมเมื่อไปอิตาลี
หอเอนปิซา (Pisa Leaning Tower)
หอเอนปิซา ตั้งอยู่ที่เมืองปิชา ประเทศอิตาลี ซึ่งสร้างด้วยหินอ่อน สูง 181 ฟุต มี 8 ชั้น โดยเริ่มสร้างเมื่อ ค.ศ. 1174 เสร็จเมื่อปี ค.ศ.1350 ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 176 ปีสำหรับหอเอนปิชานี้ ภายในมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายด้วยฝีมือจิตรกรชื่อดังแห่งยุคที่สลักลวดลายไว้สวยงามมาก ส่วนสาเหตุที่เอียงนั้นเกิดขึ้นหลังจากเมื่อสร้างเสร้จแล้ว ฐานได้ทรุดไปข้างหนึ่ง เมื่อวัดดูปรากฏว่าเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 14 ฟุต แต่ก็ยังไม่ล้ม ยังคงเอียงอยู่เช่นทุกวันนี้ ณ ที่หอเอนปิซาแห่งนี้เป็นที่ที่กาลิเลโอขึ้นไปทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับแรงดึงดูดของโลก หอเอนปิซา The Leaning Tower of Pisa เป็นหอระฆังที่มีลักษณะเอียงเหมือนกับจะโค่นล้มภูเขาไฟวีสุเวียส ปอมเปอีตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี ใกล้กับเมืองนาโปลี(เนเปิลส์) เหนืออ่าวเนเปิลส์ เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับเพียงแห่งเดียวในทวีปยุโรปแผ่นดินใหญ่ มีความสูง 1,281 เมตรปากปล่องมีเส้นรอบวง 1,400 เมตร ลึก 216 เมตร การระเบิดครั้งสำคัญที่สุดเกิดขึ้นในวันที่ 24 สิงหาคม ปี พ.ศ. 622 (ค.ศ. 79)เถ้าถ่านได้ทับถมเมืองปอมเปอีทั้งเมืองแต่การระเบิดครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2487 (ค.ศ. 1944)เปิดให้เที่ยวชม ศึกษาซากฟอสซิลของมนุษย์ได้ที่นี่


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น