สถานที่สำคัญของสวิตเซอร์แลนด์
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่สวยงามและเงียบสงบไม่แพ้ที่ไหน ๆ ในโลก จึงเป็นประเทศที่ใครหลาย ๆ คนฝันอยากจะไปท่องเที่ยว เพื่อสัมผัสกับความงามของที่นี่ด้วยตาของตัวเองสักครั้ง อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นอีกคนที่สนใจอยากจะไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร ที่ไหนบ้างดี วันนี้เรามีข้อแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับสถานที่ที่คุณควรไปเยือนมาฝาก ลองมาอ่านกันดูเลยค่ะ
ชมงานศิลป์ที่เมือง Basel
เมืองนี้เป็นอีกเมืองที่รวบรวมงานศิลปะสวย ๆ เอาไว้ด้วยกัน โดยเฉพาะที่ Fondation Beyeler ที่รวบรวมภาพเขียนของศิลปินชื่อดังตั้งแต่ใอดีตหลายคน ยกตัวอย่างเช่น Bacons, Monets และ Picassos นอกจากนี้ ในเมือง Basel ยังมี Kunstmuseum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ที่รวบรวมงานศิลป์สวย ๆ ทั้งแนวย้อนยุคและแบบร่วมสมัยอีกเอาไว้อีกด้วย เรียกได้ว่า ผู้ที่รักศิลปะนั้นไม่ควรพลาดเด็ดขาด
สัมผัสวิวแม่น้ำสวย ๆ ได้ที่นี่
สมัยนี้การจะมองหาทิวทัศน์ของแม่น้ำลำธารสวย ๆ ใสสะอาดเหมือนสมัยก่อนนั้นเป็นเรื่องที่ยากเต็มที เพราะคนไม่รู้จักรักษาสิ่งแวดล้อม ขยันทิ้งขยะลงแม่น้ำกันเป็นประจำ แถมยังได้รับมลพิษจากของเสียที่ถูกปล่อยออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ อีกด้วย แต่ไม่ใช่กับประเทศนี้ เพราะมีการรักษาความสะอาดกันเป็นอย่างดี ทำให้น้ำในแม่น้ำที่นี่ยังคงใสสะอาด และยังมีแม่น้ำจำนวนมากกว่า 10 สาย ให้เราได้เลือกพักผ่อนหย่อนใจริมแม่น้ำได้ตามใจชอบ เช่น แม่น้ำอาเร, แม่น้ำโปและแม่น้ำไรน์ซึ่งมีความยาวมากที่สุดในประเทศ ด้วยความยาวถึง 375 กิโลเมตร
แวะเล่นสกีที่ Zermatt
เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อย่างเมือง Zermatt นั้น มีจุดเด่นอยู่ที่ภูเขา Matterhornที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นมาชมวิวที่ยอดเขา และเล่นสกีกันที่นี่ ทำให้โรงแรมในแถบนั้นมีแขกพักเต็มอยู่เสมอ จนบางครั้งก็ถึงกับต้องจองกันล่วงหน้าเป็นเวลาหลายเดือนเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ถ้าใครวางแผนจะไปเที่ยวที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ล่ะก็ อย่าลืมเพิ่มทริปเล่นสกีที่ Zermatt เข้าไปในโปรแกรมของคุณด้วย
สิ่งก่อสร้างก็โดดเด่นไม่แพ้ที่ไหน ๆ
สถาปัตยกรรมของที่นี่ ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้สิ่งแวดล้อมจากธรรมชาติรอบข้าง เพราะสวิตเซอร์แลนด์ขึ้นชื่อในเรื่องสิ่งก่อสร้างสวยงามค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นแบบย้อนยุคคลาสสิกที่พบได้ในแถบชานเมือง หรือแบบโมเดิร์นสมัยใหม่เก๋ ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปในประเทศแห่งนี้ เพราะฉะนั้น หากมีเวลาก็อย่าลืมลองเดินท่องเที่ยว เพื่อสำรวจและซึมซับสถาปัตยกรรมที่งดงาม เป็นเอกลักษณ์สวิตเซอร์แลนด์กันนะ
แหล่งรวมสปาชั้นยอด
สำหรับใครที่ต้องการจะผ่อนคลายความเมื่อยล้า หรือบำรุงผิวสวย ๆ ของตัวเอง สปาของที่นี่จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะประเทศสวิตเซอร์แลนด์ขึ้นชื่อเรื่องการทำสปากันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ที่นี่จึงมีสปาชั้นดีให้คุณเลือกใช้บริการได้มากมาย แถมยังมีหลากหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น การนวดตัว หรือสปาช็อกโกแลต ที่ให้คุณได้เข้าไปอาบน้ำบำรุงผิวในบ่อช็อกโกแลตซะด้วย...ว้าว!
Helvetia เมืองที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ
หากคุณเป็นอีกคนที่กำลังมองหาที่พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ และสามารถเพลิดเพลินกับความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ Helvetia จะเป็นอีกเมืองที่คุณไม่ควรพลาด เพราะที่นั่นเป็นเมื่องที่เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน และยังมีธรรมชาติสวยงามให้ชมอีกด้วย โดยเฉพาะที่สวน Botanical Garden ในเกาะใจกลางแม่น้ำ Maggiore ซึ่งรวบรวมดอกไม้นานาพันธุ์ไว้ด้วยกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติได้เข้าชม
พักผ่อนริมน้ำตก Trummelbach falls
Trummelbach falls เป็นชื่อของน้ำตกธรรมชาติ 10 สาย อันสวยงามที่ไหลลงท่ามกลางหุบเขา ด้วยความสูงถึง 140 เมตร รับรองได้ว่าใครที่มีโอกาสได้ไปดู จะต้องประทับใจในความงดงามของมันอย่างแน่นอน ทั้งนี้ หากคุณต้องการจะสัมผัสความงามของน้ำตกนี้อย่างใกล้ชิด ก็สามารถจ่ายเงินเพื่อเข้าชมน้ำตกภายในตัวภูเขาได้ ด้วยราคาเพียงแค่ 10 เหรียญเท่านั้น
ใกล้ชิดสัตว์ที่ Swiss National Park
ที่นี่เป็น National Park แห่งเดียวของประเทศสวิตเซอรแลนด์ ซึ่งให้สัตว์ได้อยู่กันตามธรรมชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ห่าง ๆ และเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ โดยสวนแห่งนี้มีขนาดใหญ่ถึง 172.3 ตารางกิโลเมตร ส่วนสัตว์ที่สามารถพบได้ที่นี่ ได้แก่ นกอินทรีทอง นกแร้งเครา แพะภูเขา ตัวมาเมิต เลียงผา และกวางเอลค์
อิ่มอร่อยที่ Piz Gloria
Piz Gloria เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนยอดเขา Schilthorn จึงเป็นแหล่งที่ผู้คนนิยมมาชมวิวของภูเขากันจากที่นี่ นอกจากนี้ ร้านนี้ยังเคยเป็นสถานที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง James Bond ภาค On Her Majesty's Secret Service มาก่อน จึงทำให้มีของที่ระลึกจากภาพยนตร์เรื่องนี้ขายเป็นจำนวนมาก แถมยังมีบาร์ชื่อ James Bond อยู่ภายในร้านอีกด้วย ส่วนอาหารจานเด็ดของที่นี่ ได้แก่ มันฝรั่งทอดแบบสวิส ชีสฟองดู และ สปาเก็ตตี้เจมส์ บอนด์
แดนสวรรค์ของคนรักช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ดังนั้น เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ไม่ควรพลาดลองช็อกโกแลตโฮมเมดตามร้านคาเฟ่ต่าง ๆ เด็ดขาด นอกจากนี้ คุณยังควรแวะชมพิพิธพัณฑ์ Museo Storico Di Blenio ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมศิลปะต่าง ๆ รวมถึงเรื่องราวเกี่ยวกับช็อกโกแลตตั้งแต่สัยโบราณเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องผลิต รูปภาพ และโฆษณาช็อคโกแลตในสมัยก่อนอีกด้วย
เมืองสำคัญ
เป็นเมืองหลวงของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีประชากรประมาณ 130,000คน มีประชากรมากเป็นอันดับ 4ของประเทศ ภาษาราชการที่ใช้ในเมืองเบิร์นคือภาษาเยอรมัน แต่คนในเมืองส่วนใหญ่นิยมพูดภาษาเยอรมันเบิร์นเป็นภาษาถิ่น ในปีค.ศ. 1863 เบิร์นได้รับการยกเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน1ใน10ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010
อินเตอร์ลาเคน
เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมืองหนึ่ง
ในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) นักท่องเที่ยวจะได้ค้นพบประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืมกับแหล่งท่องเที่ยวและทัศนียภาพต่างๆ ที่ค่อยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้าไปสัมผัสความงามที่เป็น
เอกลักษณ์ของเมือง Interlakenและอาหารประจำท้องถิ่น ของ อินเตอร์ลาเคน (Interlaken)ซึ่งถือเป็นความภูมิใจของคน Switzerlandที่ต้องการให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ และได้รับประการณ์อันน่าประทับใจผ่านศาสตร์และศิลป์ ในการปรุงอาหาร คงจะไม่เลวนัก หากท่านจะสิ้นสุดวันดีๆของท่าน ด้วยมื้ออาหารประจำท้องถิ่นของเมือง Interlaken และหากใครไปเดินที่สวนสาธารณะกลางใจเมืองก็มองเห็นทิวทัศน์ของภูเขาไอเกอร์ (Eiger), เมิ้นส(Mönch) และ ยุงค์ฟราว (Jungfrau)
ได้อย่างถนัดตาหรือใครจะชวนกันไปนั่งรถม้ากินลมชมวิวรอบเมืองก็นับว่า ได้บรรยากาศดีไม่น้อย ส่วนใครที่ชอบช้อปที่เมืองอินเทอร์ลาเก้นมีร้านสินค้าแบรนด์ดังทั้งแฟชั่นและนาฬิกาสุดหรู ให้เลือกช้อป
กันอย่างมากมาย สำหรับอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจในเมืองอินเทอร์ลาเก้น ก็คือจุดชมวิวมุมสูงของสามขุนเขา ที่บนนั้นจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามของขุนเขา 3 ลูก พร้อมด้วยทะเลสาบสีเขียวที่ล้อมด้วยป่าสนสูงชะลูด ซึ่งดูแล้วงดงามราวภาพฝัน
ลูเซิร์น
Lucerne เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” (The roof of Europe)เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้วก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขา และไหล่เขาสลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม สำหรับเลี้ยงสัตว์
ลูเซิร์นเป็นเมืองที่อยู่เกือบใจกลางประเทศ โดยตั้งอยู่ฝั่งค้านตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบลูเซิร์น ที่มีชื่อเรียกว่า ทะเลสาบสี่แคว้นแดนป่าไม้(Lake of the four forest cantons) ตรงบริเวณปากแม่น้ำรอยซ์ (Reuss river)เมืองนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่อยู่ด้านตะวันออกเป็นเมืองเก่ามีอายุกว่า500ปีแล้ว(ผังเมืองของประเทศในยุโรปมักจะมีการอนุรักษ์ส่วนเมืองเก่าทั้งนั้นทุกประเทศ เขาจะไม่ยอมให้สร้างอาคารใหม่ๆหรืออาคารสูง สร้างขึ้นในเขตเมืองเก่าที่อนุรักษ์ไว้เขาจะแยกส่วนเมืองใหม่ออกจากกันเลย ไม่ว่าจะเป็นส่วนธุรกิจ ส่วนพักอาศัยหรือแม้แต่เมืองตากอากาศก็ยังสร้างเป็นเมืองใหม่ ) ส่วนที่อยู่ทางด้านตะวันตกเป็นเมืองที่สร้างภายหลังอาคารบ้านเรือนเป็นแบบสมัยใหม่ แต่ก็ยังมีร่องรอยของการเป็นหัวเมืองโบราณที่ปรากฏให้เห็นทุกมุมเมืองในอดีตลูเซิร์นเป็นเมืองเก่าที่ปกครองตนเอง แต่ได้รวมเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับประเทศสวิสเซอร์แลนด์มาตั้งแต่ค.ศ.1332
เจนีวา
ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองนานาชาติ(Global City)เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติสำคัญๆ หลายองค์กร เช่น สำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติประจำทวีปยุโรป,องค์การอนามัยโลก (WHO), องค์การการค้าโลก(WTO)เป็นต้น เจนีวายังเป็นสถานที่จัดตั้งองค์การสันนิบาตชาติ ใน ค.ศ. 1919 และกาชาดสากล ใน ค.ศ. 1864ปัจจุบันเจนีวามีประชากรในเขตตัวเมือง185,526คน (ข้อมูลปี 2004)แต่ถ้านับรวมเขตที่อยู่อาศัยรอบตัวเมืองแล้วจะมีประชากรประมาณ 700,000คน จากที่กล่าวมาโดยสรุปเจนีวาเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองคมนาคมหลักของทวีปยุโรปอีกด้วย
ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น
(Matterhorn)เป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงมากในเทือกเขาแอลป์ (Alps)มีรูปทรงปิรามิด ตั้งอยู่ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลีสูงจากระดับน้ำทะเล 4,478 เมตร เขาลูกนี้ด้านหนึ่งอยู่ในเขตแดนของประเทศสวิสอีกด้านหนึ่งอยู่ในเขตแดนของประเทศอิตาลี นักปืนเขาหลายคนได้มาจบชีวิตลงเพราะต้องการพิชิตยอด Matternhorn ชื่อของเขาเหล่านั้นยังจารึกอยู่บนศิลาที่สุสานใกล้ๆ แม่น้ำที่ตัวเมือง Zermatt ค้าของลูกอม ริกัวล่าร์ นับถอยหลังไปร้อยกว่าปีในสมัยที่ยังไม่มีกระเช้าหรือรถไฟใดๆขึ้นไปถึงยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นนี้มีความสวยงามมีเสน่ห์จนได้มาเป็นเครื่องหมายการ
แหล่งที่มา http://travel.kapook.com/view39748.html
http://www.proudholiday.com